เติมลมยาง ทำอย่างไรถึงถูกต้อง

ปกติแล้วในรถทุกคันจะมีสติกเกอร์ด้านคนขับและคู่มือรถจะมีบอกเอาไว้อยู่แล้วว่าควรเติมลมยางรถเท่าไหร่จึงจะเหมาะตามสเปคของรถที่กำหนดไว้ค่ะ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถช่วยให้รถของเราประหยัดน้ำมัน อีกทั้งยังช่วยให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ดีอีกด้วย แล้วยังส่งผลช่วยลดอุบัติเหตุให้น้อยลง มาติดตามอ่านกันค่ะว่าวิธีและการเติมลมยางรถอย่างไรถึงเหมาะสม
วิธี เติมลมยาง ที่ถูกต้อง
- ไม่ควรเติมลมยางตอนที่ยางรถยังร้อนอยู่ เพราะความร้อนทำให้อากาศขยายตัว
- เติมลมยางควรให้อยู่ในสเปครถของคุณด้วย
-
เติมลมยางรถเก๋ง
ตามมาตรฐานให้สูบลมได้สูงสุด 36 ปอนด์/ตารางนิ้ว
-
เติมลมยางรถกระบะ
ตามมาตรฐานให้สูบลมได้สูงสุด 65 ปอนด์/ตารางนิ้ว
-
- ควรหมั่นเช็คลมยางเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งนะคะ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
- เติมลมยางไม่ควรมากเกินไป เพราะเวลาที่ขับรถแล้วเจอแรงกระแทกหนักๆ ยางรถอาจระเบิดได้ค่ะ หรือรถลื่นไถลได้ง่าย
- เติมลมน้อยเกินไปก็ไม่ดีค่ะ ทำให้บริเวณไหล่ยาง และแก้มยางทำงานหนักเกินไปทำให้สึกหรอได้ง่าย แถมสิ้นเปลืองน้ำมันด้วย
- เมื่อต้องเดินทางไกล นาน ๆ ควรเพิ่มลมยางอีกประมาณ 3-5 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)
- ควรวัดค่าลมยางตอนที่ยางรถเย็นตัวลงแล้วเพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้องแน่นอน เพราะถ้าวัดตอนที่ยางยังร้อนจะได้ค่าแรงดันที่มีค่าเกินจริง
- เดี๋ยวนี้นิยมนำก๊าซไนโตรเจนมาใช้เติมยางรถยนต์แทนอากาศที่ใช้กันอยู่ทั่วไป เพราะช่วยให้การซึมของลมยางน้อยลง ไม่ต้องเติมลมบ่อยๆ แล้วยังช่วยลดเสื่อมสภาพของโครงยางและกระทะล้อด้วย
- ทุกครั้งที่เปลี่ยนยางใหม่ควรเปลี่ยนวาล์วและแกนวาล์วด้วย เพื่อกันไม่ให้ลมรั่วซึมที่วาล์ว
- สำหรับยางใหม่ในช่วง 3,000 กม. แรกให้เพิ่มความถี่ในการตรวจเช็คลมยางให้มากกว่าปกติ เนื่องจากโครงยางในช่วงนี้จะมีการขยายตัวทำให้ความดันลมยางลดลง
ดังนั้น จึงต้องหมั่นตรวจเช็คลมยางอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตของเราเวลาขับรถนะคะ
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+ , ประกันรถยนต์ 3+ , ประกันชั้น 2 , และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th/
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด