ฟังเสียงช่วงล่างของรถให้ดี จะได้รีบซ่อม ก่อนที่รถยนต์จะเสียหายหนัก

ฟังเสียงช่วงล่างของรถให้ดี จะได้รีบซ่อม ก่อนที่รถยนต์จะเสียหายหนัก
หลังจากที่รถยนต์ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง บางคนอาจท่องเที่ยวจนลืมตรวจเช็กสุขภาพของรถยนต์อย่างช่วงล่างของรถ ซึ่งเป็นจุดสำคัญ ที่สามารถส่งเสียงเป็นสัญญาณของความเสียหายได้อีกด้วย
ในการตรวจเช็กช่วงล่างรถยนต์ คุณควรเข้าศูนย์หรืออู่เพื่อให้ช่างนำรถขึ้นฮ้อยต์หรือลิฟท์เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด แต่หากไม่สะดวก หรือไม่มีเวลา ก็สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ โดยการสังเกตอาการจากเสียงที่ผิดปกติ ซึ่งเสียงเหล่านั้นเองที่จะเป็นสัญญาณบอกว่าช่วงล่างของรถเริ่มมีอาการผิดปกติครับ
เสียงผิดปกติที่มาจากช่วงล่างมีหลายลักษณะด้วยกัน ทั้งนี้พี่กู๊ดแนะนำว่าต้องสังเกตอาการของรถ และจังหวะการขับด้วยว่าเสียงนั้น เกิดขึ้นในช่วงใด เรามาดูรายละเอียดกันเลยครับ
สังเกต 4 เสียงช่วงล่างรถยนต์ สัญญาณเตือนรถเสียหาย
-
มีเสียงดังเวลาเลี้ยวหรือตกหลุม
เวลาที่คุณขับรถด้วยความเร็วต่ำ ในจังหวะที่มีการหักเลี้ยวพวงมาลัย หรือล้อตกหลุม หากได้ยินเสียงกึก ๆ จากใต้ท้องด้านหน้าของรถ เป็นไปได้ว่าลูกหมากคันชัก-คันส่ง หรือลูกหมากปลายแร็ค (Rack and Pinion) ที่เรียกกันอีกอย่างว่าไม้ตีกลองอาจจะหลวม และอีกจุดที่เป็นไปได้ก็คือ เพลาขับมีปัญหา เกิดจากยางหุ้มเพลาขาดเป็นเวลานาน จะมีเสียงกุกกัก ๆ สามารถสังเกตได้เช่นเดียวกันครับ
-
มีเสียงดังเวลาผ่านถนนขรุขระ
ในจังหวะที่ขับผ่านเนิน อาจเป็นเนินเล็ก ๆ หากชะลอความเร็วลงแล้วได้ยินเสียงกึกกักใต้ท้องรถ และเสียงเกิดขึ้นมาในจังหวะนี้ เป็นไปได้ว่าบูชปีกนกมีความผิดปกติครับ
-
มีเสียงดังเวลาเบรก
หากเวลาเบรกแล้วมีเสียงดังเอี๊ยด ๆ จี๊ด ๆ เหมือนเหล็กสีกัน ส่วนใหญ่เป็นเสียงเตือนว่าผ้าเบรกอยู่ในระดับที่ต่ำมากแล้ว ควรเปลี่ยนได้แล้ว แต่หากเป็นเสียงดังครืด ๆ อาจเป็นไปได้ว่าผ้าเบรก และจานเบรกสกปรก ซึ่งอาจเกิดจากฝุ่นที่มาจากผ้าเบรกนั่นเอง แต่หากเสียงดังหลังจากที่ขับรถลุยน้ำมา นั่นเป็นเพราะผ้าเบรกเปียกน้ำ เมื่อขับไปสักพักเสียงก็จะหายไปเองครับ
-
มีเสียงดังเวลาเลี้ยวสุด
เสียงนี้ส่วนใหญ่จะพบในรถกระบะซึ่งมีสาเหตุมาจากบูชกันเลี้ยวสึก ทำให้เวลาเลี้ยวสุด จึงเกิดการเสียดสีกันของช่วงล่าง บูชกันเลี้ยวมีราคาที่ไม่แพงเลยครับ การเปลี่ยนก็ทำได้ไม่ยากเช่นกัน หากพบว่ามีปัญหานี้เกิดขึ้นควรจะเปลี่ยนเสียแต่เนิ่น ๆ ดีกว่าทนฟังเสียงเหล็กสีกัน อาจทำให้การขับขี่ไม่ปลอดภัยในระยะยาว
อีกเรื่องของช่วงล่างที่หลีกเลี่ยงได้ยาก คือการขับรถลุยน้ำในหน้าฝนครับ ซึ่งมีจุดที่น่ากังวลคือ เพลาขับ กับแร็คพวงมาลัย หากตรวจพบว่ายางหุ้มเพลาขับขาดควรรีบเปลี่ยน ยิ่งตรวจพบ และแก้ไขเร็วก็จะเสียแค่ค่าจารบีกับค่ายางหุ้มเพลาเท่านั้น แต่หากปล่อยไว้นาน ยิ่งถ้าไปลุยน้ำมาด้วย อาจจะต้องเปลี่ยนยกเส้นซึ่งค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าครับ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องประกันรถยนต์พร้อมเช็คราคา ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และประกันชั้น3 คลิกเว็บไซต์ https://www.directasia.co.th หรือสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด