What can we help you with?

หนูกัดสายไฟรถยนต์ ทำยังไงดี? เคลมประกันได้ไหม

หนูกัดสายไฟรถ_DirectAsia

หากพูดถึงอีกหนึ่งปัญหากวนใจที่ยังคงพบได้อยู่เรื่อยๆ ของคนมีรถ นั่นคือถูกหนูกัดสายไฟ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้สายไฟในรถขาดหรือระบบไฟฟ้าภายในรถเสียจนไม่สามารถสตาร์ทรถได้ และทำให้ผู้ใช้รถหลายคนหัวเสียไปตามๆ กัน เพราะไม่แน่ใจว่าเคลมประกันได้หรือเปล่าในกรณีที่หนูกัดสายไฟรถจนขาด สามารถนำรถเข้าอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการได้หรือไม่ วันนี้เราเลยจะพาไปหาคำตอบกันว่า หากรถคู่ใจของคุณถูกหนูกัดสายไฟรถจนขาด จะขอยื่นเคลมประกันได้ไหม?

สาเหตุหนูกัดสายไฟรถ_DirectAsia

3 สาเหตุหลักสร้างปัญหาหนูกัดสายไฟในรถขาด

1.รถไม่สะอาด

อย่างที่ทราบกันดีว่าสิ่งสกปรกอย่างเศษอาหาร เศษขนมที่ตกหล่นบนพรมในรถ และไม่ได้ทำความสะอาดเป็นเวลานาน ถือเป็นแหล่งอาหารชั้นดีที่พร้อมเชิญชวนให้หนูเข้ามาอาศัยอยู่ในรถได้ หนึ่งในสาเหตุที่หนูกัดสายไฟเพราะได้กลิ่นจากเศษของอาหาร ของกินหรือขนมนั่นเอง และหากเศษอาหารเหล่านั้นหมด หนูก็จะเริ่มหาสิ่งอื่นที่สามารถแทะได้มาทดแทน จึงเป็นที่มาของปัญหาหนูกัดสายไฟ รวมถึงความเสียหายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายในรถ

2.ความอบอุ่น

ต้องยอมรับว่ารถยนต์เป็นอีกหนึ่งที่พักอาศัยของสัตว์หลายๆ ประเภท โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังจากที่ผ่านการขับขี่มาจะมีไออุ่นจากเครื่องยนต์หลงเหลืออยู่ ด้วยความอบอุ่นที่มาจากเครื่องยนต์นี้เอง จึงเป็นแหล่งพักพิงชั้นเลิศที่เหล่าสรรพสัตว์ชื่นชอบ และเพื่อให้สะดวกในการเข้าออกครั้งต่อไปจึงพากันกัดสายไฟรถยนต์นั่นเอง

3.ปลอกสายไฟมีส่วนผสมจากธรรมชาติ

มาถึงจุดนี้อาจทำให้ใครหลายคนเกิดคำถามขึ้นมาว่า สายไฟมีส่วนผสมของธรรมชาติอย่างไร จึงต้องขออธิบายว่าค่ายรถยนต์เจ้าใหญ่หลายๆ เจ้าในปัจจุบันเริ่มหันมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติเข้ามาประกอบรถยนต์ในส่วนต่างๆ มากขึ้น ซึ่งรวมถึงปลอกหุ้มสายไฟด้วย โดยตรงส่วนปลอกหุ้มสายไฟนั้นจะมีส่วนผสมที่ทำมาจาก “ถั่วเหลือง” ซึ่งจะสามารถพบได้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ถึงแม้จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่เพราะกลิ่นหอมๆ นี่เองที่เป็นการชักชวนหนูให้เข้ามาภายในห้องเครื่อง จนเกิดปัญหาหนูกัดสายไฟขึ้นได้ในที่สุด

วิธีป้องกันหนูกัดสายไฟรถ_DirectAsia

3 วิธีป้องกัน ก่อนโดนบุกเพราะหนูกัดสายไฟ!

1.กำจัดเศษอาหาร

เพราะการทำความสะอาดรถยนต์ไม่ใช่ทำเพียงแต่ภายนอกเท่านั้น แต่หมายถึงการทำความสะอาดภายในรถร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บกวาดเศษอาหาร เศษขนมต่างๆ ที่อาจตกหล่นอยู่ตามพรมหรือซอกต่างๆ ตามมุมของรถ ด้วยการดูดฝุ่นพรม และกวาดเศษผงต่างๆ ซึ่งคุณสามารถทำเองได้ หรือหากไม่มีเวลาก็ยังมีบริการคาร์แคร์ที่คอยให้บริการอยู่ ดังนั้นหากไม่อยากให้รถของคุณเป็นแหล่งอาหารของหนู และไปทิ้งร่องรอยหนูกัดสายไฟรถจนเป็นปัญหาให้ต้องตามแก้ล่ะก็ วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้หนูเข้าไปกัดสายไฟรถได้ดีทีเดียว

2.สตาร์ทรถบ่อยๆ เมื่อจอดทิ้งไว้นาน

การสตา์รทรถบ่อยๆ ในกรณีที่คุณจอดรถทิ้งเอาไว้เป็นเวลานาน นอกจากจะช่วยในเรื่องของเครื่องยนต์ที่ไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรจนทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ลมยางอ่อนแล้ว ยังเป็นการป้องกันไม่ให้หนูเข้ามาทำเป็นที่พักอาศัยหรือหนูกัดสายไฟได้อีกด้วย เพราะการสตาร์ทรถจะช่วยทำให้เครื่องยนต์ได้ทำงาน จนเกิดเป็นความร้อนแทนที่จะเป็นไออุ่นให้กับเหล่าสัตว์มาพักพิง ดังนั้น นอกจากจะช่วยแก้ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดแล้ว ยังเป็นการไล่ไม่ให้หนูมาอยู่อาศัยและกัดสายไฟรถอีกด้วย

3.ทำความสะอาดห้องเครื่อง

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้หนูเข้ามากัดสายไฟรถได้ เพราะการทำความสะอาดห้องเครื่องเป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้ห้องเครื่องยนต์และรถสะอาดแล้ว ยังทำให้ได้สังเกตรถอยู่ตลอดด้วยว่า มีจุดไหนชำรุดหรือมีปัญหาหรือไม่ เช่น สายไฟรถขาด หม้อน้ำแห้ง หม้อน้ำรั่ว เป็นต้น

หนูกัดสายไฟรถ สามารถขอเคลมประกันรถได้หรือไม่ ?

การที่รถของเราจอดไว้เฉยๆ แล้วมีหนูมากัดสายไฟจนพัง ระบบไฟทำงานไม่ได้ ตามปกติจะสามารถแจ้งขอเคลมได้เพราะถือว่ากรณีนี้เป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดจากการดัดแปลงหรือรถเสื่อมสภาพแต่อย่างใด

และควรถ่ายรูปที่เจ้าหนูมากัดสายไฟรถพังไว้เพื่อเป็นหลักฐาน จากนั้นจึงแจ้งให้บริษัทประกันทราบ พร้อมวัน เวลา และสถานที่ให้เรียบร้อย เพียงแต่ว่าในกรณีที่หนูกัดสายไฟรถจนพังและขอทำการเคลมประกัน จะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อรถยนต์คันนั้นทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม รถที่ทำประกันชั้น 1 ถึงจะแจ้งเคลมกรณีหนูกัดสายไฟรถแล้ว  ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ที่ตกลงกันไว้กับบริษัทกันตั้งแต่แรกด้วย ก็คือค่าเสียหายที่ผู้ใช้รถหรือผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่ประสบเหตุต้องรับผิดชอบร่วมกับบริษัทประกันภัยเป็นจำนวนเงินเริ่มต้นที่ 1,000 บาท แต่ถ้าอะไหล่บางอย่างต้องเปลี่ยนเพราะสาเหตุนี้ประกันอาจต้องคิดค่าเสื่อมสภาพด้วยแล้วแต่กรณี

เห็นไหมครับว่าในกรณีที่รถของคุณพังจากการที่หนูเข้าไปกัดสายไฟรถ สามารถที่จะขอเคลมประกันรถได้ เพียงแต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยที่ระบุเอาไว้ ซึ่งหากใครที่เคยประสบปัญหาหนูเข้าไปกัดสายไฟ แล้วต้องการที่จะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อรับความคุ้มครองและการเคลมประกันรถในครี่งต่อไปอยู่ล่ะก็ เราขอแนะนำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จากไดเร็ค เอเชีย โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ และหากใครที่เป็นลูกค้าไดเร็ค เอเชียอยู่แล้ว และประสบปัญหาหนูเข้าไปกัดสายไฟ ต้องการความช่วยเหลือ สามารถเข้าไปติดต่อได้ที่นี่ พร้อมทั้งการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ที่รวดเร็วทันใจ

 

สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์  โทร. 0-2767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th