สัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ มีความหมายอย่างไร

เมื่อไฟสัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ ‘แจ้งเตือน’ ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน แสดงว่าระบบนั้น ๆ อาจเกิดความผิดปกติ และเพื่อความปลอดภัย เราควรทำการตรวจเช็กบื้องต้น และนำรถเข้าไปเซ็กที่ศูนย์บริการ เพื่อทำการแก้ไข และลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดความเสียหายรุนแรงที่ตามมาได้ ว่าแล้ว.. ก็มาลองดูความหมายของสัญลักษณ์แจ้งเตือนต่าง ๆ บนหน้าปัดรถกันค่ะ
ความหมายของสัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์
-
เช็กเครื่องยนต์
เมื่อสัญลักษณ์นี้แสดงสีเหลืองค้างระหว่างการใช้งาน แสดงว่าเครื่องยนต์ของคุณอาจมีปัญหา ให้คุณประคองรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจเช็ก
-
ระบบเบรก
สัญลักษณ์นี้แสดงสีแดงจะติดในกรณีที่ดึงเบรคมือค้างไว้ หรือ ปริมาณของน้ำมันเบรคต่ำกว่าปกติ รวมไปถึงความหนาของผ้าเบรกเสื่อมสภาพ หากว่ากดเบรคมือลงแล้ว และปริมาณน้ำมันไม่ขาด อาจเกิดจากเซ็นเซอร์เบรคมือ หรือเซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำมันเบรคชำรุด ให้นำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการ
-
น้ำมันเครื่อง
สัญลักษณ์สีแดงรูปนี้ จะแสดงขึ้นมาเมื่อระดับน้ำมันเครื่องต่ำผิดปกติ ให้รีบตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง แล้วเติมให้อยู่ในระดับปกติ แต่ถ้าเช็คแล้วน้ำมันเครื่องไม่ขาด อาจเป็นไปได้ว่า ตัวปั๊มน้ำมันเครื่องอาจมีปัญหา ให้นำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการ
-
แบตเตอรี่
เมื่อสัญลักษณ์นี้แสดงสีแดงค้างระหว่างการใช้งาน แสดงว่าการทำงานของระบบประจุไฟ (ไดชาร์จ) มีปัญหา ไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟไปยังระบบต่าง ๆ ได้ ให้คุณรีบปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าให้หมด โดยเฉพาะระบบปรับอากาศ และเตรียมหาที่จอดเพื่อทำการติดต่อศูนย์บริการ หรืออู่เพื่อทำการตรวจซ่อม
-
ถุงลมนิรภัย
เมื่อสัญลักษณ์นี้แสดงสีแดงค้างต่อเนื่องระหว่างการใช้งาน แสดงว่าถุงลมนิรภัยอาจไม่ทำงาน ให้รีบนำรถเข้าศูนย์เพื่อทำการตรวจเช็คโดยเร็ว
-
ระบบพวงมาลัย EPS
เมื่อสัญลักษณ์นี้แสดงสีเหลืองค้างระหว่างการใช้งาน แสดงว่าระบบการทำงานของพวงมาลัย Power แบบ EPS อาจมีปัญหา พวงมาลัยอาจหนักขึ้น ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับ และรีบนำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการ
-
ไฟสูง
สัญลักษณ์จะสว่างขึ้นเป็นสีน้ำเงินหรือฟ้าเมื่อเราเปิดสวิตซ์ไฟสูง ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้งานก็ไม่ควรเปิดทิ้งไว้
-
อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นต่ำ
เมื่อสัญลักษณ์นี้แสดงสีน้ำเงินค้างระหว่างการใช้งาน อาจเกิดความบกพร่องที่เซนเซอร์อุณหภูมิ ซึ่งต้องทำการหาสาเหตุ และทำการแก้ไข ด้วยการตรวจเช็คที่อู่หรือศูนย์บริการ
สัญลักษณ์ไฟเตือนเหล่านี้ จะมีอยู่ในรถยนต์ส่วนใหญ่ แต่สำหรับบางรุ่น อาจจะมีสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันไปบ้าง ดังนั้นเราควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นด้วยการอ่านคู่มือประจำรถ เพื่อหาสาเหตุ และทำการแก้ไขต่อไปค่ะ
#SafeDriver #DirectAsia