4 เทคนิคขับรถ ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจ แถมประหยัด
รู้สึกเหมือนกันไหมครับว่าเดี๋ยวนี้รถราเยอะมากทีเดียว ไม่ว่าสาเหตุของปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นจะมาจากคนไทยรวยขึ้น ความต้องการการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น หรือสืบเนื่องเป็นผลมาจากโครงการรถยนต์คันแรกก็ตาม
ปัจจัยต่างๆ เหล่านั้น ต่างก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ปริมาณรถบนท้องถนนทุกวันนี้มีจำนวนเยอะมากเลย ไม่ว่าจะขับรถไปทางไหนก็เจอแต่รถติด ติดแล้วก็ติด ติดแล้วติดอีก
ไม่เฉพาะแต่เส้นทางในเมืองเท่านั้น ที่ผมอยู่แถวๆ ชานเมือง ขอบๆ เมืองจะออกนอกเขตเมืองอยู่แล้วก็ยังติดอยู่ทุกวัน นอกจากปริมาณรถที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นผลทำให้รถติดและทำให้คนใช้รถใช้ถนนต่างก็เอือมระอาไปตามๆ กันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีโอกาสเจอบนท้องถนนก็คือ อุบัติเหตุ
เทคนิคในการขับรถให้ปลอดภัยมีหลักการอยู่ก็ข้อ ?
เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยงในการที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนวันนี้ผมมีสิ่งที่ควรระวังมาแนะนำกัน เป็นเรื่องง่ายๆ และหลายๆ คนก็น่าจะได้ยินได้ฟังกันอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็อยากจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่อยากจะช่วยรณรงค์เกี่ยวกับสิ่งที่ควรปฏิบัติทั้ง 4 ข้อในการขับรถ ได้แก่…
งดใช้มือถือขณะขับรถ
น่าจะห้ามกันยากสักหน่อย เพราะเดี๋ยวนี้โทรศัพท์เป็นอะไรที่อยู่ติดตัวของทุกคนชนิดที่แยกออกจากกันได้ยากจริงๆ และไม่เพียงการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างขับรถเท่านั้น หลายคนแชตกันขณะขับรถเลยทีเดียว
ข้อมูลของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่อง การสำรวจความเสี่ยงจากการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ พบว่าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถจะมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูง ตัวเลขที่น่าตกใจคือทั่วประเทศมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถถึง 11,542,723 คน โดยมีการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถถึง 729,997 คน
มีสมาธิกับการจราจรบนถนนและสิ่งรอบข้าง
ในขณะที่ขับรถแค่เราละสายตาจากถนนหรือการจราจรเพียงเสี้ยววินาทีอะไรก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ยิ่งใช้ความเร็วสูงมากเท่าไรความเสี่ยงยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น ถ้าใครเคยเกือบที่จะประสบเหตุจากการละสายตา เช่น หันไปมองอะไรสักอย่างข้างทาง พอหันกลับมาเกือบที่จะเบรคไม่ทันและชนกับรถข้างหน้า ลองคิดดูว่าถ้าใช้ความเร็วสูงกว่านั้น หรือถ้าวันนั้นโชคไม่ดี อะไรจะเกิดขึ้น
ขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม 60 - 80 กม./ชม.
ในความเป็นจริงคงยากที่จะใช้ความเร็วขณะนั้น ในเมืองอาจจะเป็นไปได้ด้วยสภาพการจราจรบังคับ แต่เอาเป็นว่าถ้าใช้ความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ นอกจากจะปลอดภัยแล้ว ก็ยังประหยัดน้ำมันด้วย แต่หากคิดว่าความเร็วระดับนี้ช้าเกินไป จะขับสัก 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงหรือเกินกว่านั้น ก็อย่าให้ความเร็วสูงมากเกินกว่าที่จะควบคุมรถได้อย่างมั่นคง ที่สำคัญอย่าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดในเส้นทางที่มีป้ายเตือนตรวจจับการใช้ความเร็ว
เว้นระยะห่างในการขับขี่
การเว้นระยะห่างที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่จะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือบรรเทาความรุนแรงของอุบัติเหตุได้หากในขณะขับรถคุณไม่มีสมาธิเท่าที่ควร มีการละสายตาจากถนนบ่อยครั้ง หรือใช้ความเร็วสูงเกินไปและขับอย่างไม่ระมัดระวัง อย่างน้อยถ้าเว้นระยะห่างระหว่างคันหน้าสักหน่อย มีเหตุฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้นก็ยังมีโอกาสที่จะหยุดรถได้ทัน
การที่มีการรณรงค์ในเรื่องเหล่านี้ก็เพื่อสวัสดิภาพของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ถ้าทำได้ก็ช่วยกันเถอะครับ และอย่าลืมว่าถ้าจะใช้รถก็ควรที่จะทำประกันภัยรถยนต์ด้วย ซึ่งการขับรถดีไม่มีอุบัติเหตุยังช่วยลดเบี้ยประกันได้ 10 - 50% เชียวนะครับ สนใจสามารถซื้อออนไลน์ได้ที่ DirectAsia ประเทศไทย
