What can we help you with?

รถเสียกลางทางต้องทำอย่างไร รวมเบอร์ฉุกเฉินควรรู้

รถเสียกลางทางต้องทำอย่างไรรวมเบอร์ฉุกเฉินควรรู้

ถ้ารถเสียกลางทางทำอย่างไรดี? โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับ คนที่เพิ่งซื้อรถ หรือคนที่ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์รถเสียกลางทางมาก่อน การเตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดรถเสียกลางทางเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้ DirectAsia ได้รวมวิธีรับมือกรณีเกิดรถเสียกลางทาง พร้อมเบอร์ฉุกเฉินที่คุณควรบันทึกไว้ เพื่อให้คุณได้อุ่นใจและสามารถรับมือกรณีรถเสียกลางทางได้

10 ทริครับมือกับรถเสียกลางทาง

การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันสำหรับใครหลายคน ซึ่งเหตุการณ์รถเสียกลางทางอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งการที่รถเสียกลางทางยังอาจเป็นอันตรายหากเกิดขึ้นบนถนนที่มีการจราจรคับคั่งหรือในพื้นที่ห่างไกล

1. ต้องมีสติ

เมื่อเกิดเหตุการณ์รถเสียกลางทาง สิ่งแรกที่คุณต้องทำ คือ ตั้งสติ หายใจลึก ๆ พยายามอย่าตกใจ จากนั้นคิดสิ่งที่ต้องทำอย่างมีสติ การมีสติจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลและรอบคอบ

2. เปิดไฟฉุกเฉินทันที

เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียกลางทาง ให้กดปุ่มไฟฉุกเฉินบนแผงคอนโซลรถเพื่อเปิดไฟกระพริบ การเปิดไฟฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ โดยไฟฉุกเฉินจะทำหน้าที่ให้สัญญาณเตือนผู้ร่วมถนนว่ารถของคุณกำลังมีปัญหา ให้ระมัดระวังซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนหรือรุนแรง

3. ย้ายรถเข้าข้างทาง

หากรถยังสามารถเคลื่อนที่ได้ ให้ขับช้า ๆ ไปจอดข้างทางที่ปลอดภัย หรือบริเวณที่มีพื้นที่ว่าง เช่น ปั๊มน้ำมัน หรือ ไหล่ทาง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนอีกด้วย

4. ให้สัญญาณแก่ผู้ร่วมทางคันอื่น

หากไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถได้ ให้หาวัตถุที่สามารถใช้เป็นสัญลักษณ์เพื่อเตือนผู้ขับขี่ที่ตามมา เช่น กรวย ป้ายสามเหลี่ยมฉุกเฉิน ยางอะไหล่ หรือสิ่งอื่นๆ ที่หาได้ นำไปวางไว้ด้านหลังรถในระยะประมาณ 3-10 เมตร เพื่อให้ผู้ร่วมทางคันอื่นทราบและสามารถลดความเร็วหรือเปลี่ยนเลนได้โดยไม่ต้องเบรกกะทันหัน

5. ดูแลตัวเองให้ปลอดภัย

หากรถเสียกลางทาง ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ เมื่อจอดรถเข้าข้างทางแล้ว ควรย้ายตัวเองไปยังจุดที่ปลอดภัย หรือถ้าจำเป็นต้องอยู่ใกล้รถ ให้เฝ้าสังเกตเสียงรถคันอื่นและมองรอบข้างเพื่อเตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินและแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที

ไดเร็ค เอเชีย โปรโมชัน

6. ตรวจสอบสภาพรถยนต์เบื้องต้น

ตรวจสอบสภาพรถยนต์เบื้องต้นเพื่อดูว่าปัญหาเกิดจากอะไร หากปัญหาไม่ซับซ้อนเกินไป คุณอาจสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ เช่น ตรวจดูยาง สายพาน หรือระดับน้ำมันเครื่อง โดยการเปิดฝากระโปรงรถและตรวจสอบดังนี้

  • สายพานยังคงอยู่ในสภาพดีหรือไม่?
  • ระดับน้ำมันเครื่องเพียงพอหรือไม่?
  • ดูว่ายางแบนหรือไม่?

7. โทรศัพท์แจ้งประกันภัยรถยนต์

หากคุณมีประกันภัยรถยนต์ ควรติดต่อบริษัทประกันภัยของคุณทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือ เบอร์โทรศัพท์ของประกันภัยควรเก็บไว้ในรถหรือในโทรศัพท์มือถือเสมอ โดยสามารถโทรหาบริษัทประกันภัยและแจ้งข้อมูลเบื้องต้น ได้แก่ ชื่อเจ้าของรถ เลขทะเบียนรถ อาการเบื้องต้น และสถานที่เกิดเหตุ

8. ติดต่อตำรวจทางหลวง

หากรถเสียกลางทางเกิดขึ้นบนทางหลวงหรือถนนใหญ่ ควรแจ้งตำรวจทางหลวงเพื่อขอความช่วยเหลือและช่วยจัดการการจราจรบริเวณนั้น โดยสามารถโทรติดต่อตำรวจทางหลวงได้ที่เบอร์ 1193 และแจ้งข้อมูลสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้พวกเขาสามารถมาช่วยคุณได้โดยเร็ว

9. ติดต่อศูนย์บริการรถยก

หากรถเสียกลางทางและรถของคุณไม่สามารถขับต่อไปได้ และประกันภัยของคุณไม่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน คุณอาจต้องใช้บริการรถยก เพื่อนำรถของคุณไปยังอู่ซ่อมหรือสถานที่ปลอดภัย ติดต่อศูนย์บริการที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ จากนั้นแจ้งสถานที่ที่ต้องการให้พวกเขามารับรถของคุณ

10. เตรียมอุปกรณ์และอะไหล่ที่จำเป็นติดรถไว้

ควรมีอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ยางอะไหล่ สายพ่วงแบตเตอรี่ และชุดเครื่องมือประจำรถติดรถไว้เสมอ เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้หากเกิดเหตุการณ์รถเสีย และเรียนรู้ทำความเข้าใจวิธีใช้อุปกรณ์เหล่านี้ด้วย

รถเสียกลางทางทำอย่างไรดี?

อาการรถเสียกลางทางที่พบบ่อย และวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

1. รถยางแบน ยางรั่ว

รถเสียกลางทางจากยางแบน ยางรั่วอาจจะเกิดจากยางเสื่อมสภาพ สึกหรอตามกาลเวลา ลืมเช็กลมยาง หรือเหยียบของแหลมคมทำให้รถเกิดอาการยางแบนหรือยางรั่ว

วิธีแก้:

  • จอดรถในที่ปลอดภัย จอดรถบริเวณไหล่ทางหรือที่ปลอดภัย
  • ตรวจสอบยาง ดูว่ายางแบนหรือรั่วตรงส่วนไหน
  • เปลี่ยนยางอะไหล่ โดยใช้แม่แรงยกรถขึ้น คลายน็อตล้อ จากนั้นถอดล้อที่แบนหรือรั่วออก ใส่ยางอะไหล่เข้าไปแล้วขันน็อตให้แน่น
  • ปั๊มลมยาง ถ้ามีที่ปั๊มลมในรถ ให้เติมลมยางให้เพียงพอ

2. รถดับกลางทาง สตาร์ทไม่ติด

รถเสียกลางทางจากการที่แบตเตอรี่หมดหรือเสื่อม ไดสตาร์ทเสีย ระบบไฟฟ้ามีปัญหา หรือแม้แต่การที่สายพานหลุดหรือขาด เป็นต้น

วิธีแก้:

  • ตรวจสอบแบตเตอรี่ เปิดฝากระโปรงและตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ว่ามีคราบสกปรกหรือขั้วหลวมหรือไม่
  • ใช้สายพ่วงแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่หมด ใช้สายพ่วงแบตเตอรี่ต่อกับรถคันอื่นเพื่อสตาร์ทรถ
  • เช็คสายพาน ตรวจสอบว่าสายพานยังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากขาดหรือลื่น ควรติดต่อช่างซ่อมหรือบริการรถยก

3. ฝากระโปรงรถยนต์มีควันขึ้น

รถเสียกลางทางจากการที่เครื่องยนต์ร้อนเกินไป (โอเวอร์ฮีต) น้ำมันเครื่องหมด ระบบระบายความร้อนมีปัญหา และหม้อน้ำรั่ว

วิธีแก้:

  • หยุดรถทันที หากเห็นควันขึ้นจากฝากระโปรง ให้หยุดรถและปิดเครื่องยนต์ทันที
  • รอให้เครื่องยนต์เย็นลง และห้ามเปิดฝากระโปรงทันทีเพราะอาจเกิดอันตรายได้ ต้องรอให้เครื่องยนต์เย็นลงก่อน
  • ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่อง เปิดฝากระโปรงและตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ ถ้าหม้อน้ำแห้ง ให้เติมน้ำเพิ่ม ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง ถ้าต่ำ ให้เติมน้ำมันเครื่อง
  • หม้อน้ำรั่วหรือไม่ หากพบว่ามีรอยรั่ว ควรติดต่อช่างซ่อมหรือบริการรถยก

การรู้จักอาการรถเสียเบื้องต้นและวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะช่วยให้คุณสามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย แต่อย่าลืมว่าเราอาจจะไม่าสมารถแก้ปัญหาด้วยตัวเองไปได้เสียหมด ในกรณีนี้ก็ควรติดต่อช่างซ่อมหรือบริการรถยกเพื่อขอความช่วยเหลือ

ไดเร็ค เอเชีย โปรโมชัน

เตรียมข้อมูลก่อนโทรแจ้ง

เมื่อรถเสียกลางทางต้องโทรแจ้งขอความช่วยเหลือ โดยแจ้งข้อมูลดังนี้

1. ชื่อ-สกุลเจ้าของรถ

ข้อมูลนี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถระบุและยืนยันตัวตนของคุณได้

2. เลขทะเบียนรถ

เพื่อให้ผู้ให้บริการ ตำรวจทางหลวง หรือแม้แต่บริษัทประกันภัยสามารถระบุรถของคุณได้อย่างถูกต้อง

3. อาการเบื้องต้น

อธิบายปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ยางรั่ว เครื่องยนต์ดับ หรือมีควันขึ้น เพื่อให้อีกฝ่ายทราบสถานการณ์และเตรียมตัวช่วยเหลือได้ถูกต้อง

4. สถานที่เกิดเหตุ

ให้ข้อมูลที่อยู่หรือจุดที่เกิดเหตุให้ละเอียดที่สุด เช่น ชื่อถนน จุดสังเกต หรือพิกัด GPS

เบอร์โทรติดต่อขอความช่วยเหลือ เมื่อรถเสียระหว่างทาง

เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ควรเก็บเบอร์โทรเหล่านี้ไว้ในรถหรือในโทรศัพท์มือถือ โดยเบอร์โทรติดต่อขอความช่วยเหลือเมื่อรถเสียระหว่างทางในประเทศไทย มีดังนี้

  • แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย โทร. 191 หรือ 1190
  • ตำรวจทางหลวงหรืออุบัติเหตุบนทางหลวง โทร. 1193
  • สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586
  • จส. 100 โทร. 1137
  • กรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
  • การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร. 1543
  • สายด่วนประกันภัย โทร. 1186
  • สายด่วนอุบัติเหตุ โทร. 02-711-9161 หรือ 02-711-9162
  • โทรแจ้งบริษัทประกัน หรือบริษัทรถ เพื่อขอความช่วยเหลือ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างไร แต่การเตรียมตัวและมีความรู้เกี่ยวกับวิธีรับมือกับรถเสียกลางทางเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรมี เพื่อความปลอดภัยและลดความวิตกกังวลเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง นอกจากนี้ การมีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้อย่างประกันรถยนต์ DirectAsia ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+, 3+, 2, 3 ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. จะช่วยให้คุณอุ่นใจมากขึ้นเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รวมถึงยังมีโปรโมชันและส่วนลดพิเศษที่ช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ดีที่สุดในราคาที่เหมาะสม สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.directasia.co.th/ หรือโทร. 02-767-7777