เลือกรองเท้าขับรถ แบบผิดๆ ..มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุ
"รองเท้า" นั้น เคยสร้างปัญหาหรือเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์มาแล้วมากมาย บางรายถึงขั้นต้องเสียชีวิต สูญเสียทรัพย์สิน เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ในหลายๆ ประเทศได้มีการระบุเกี่ยวกับใช้รองเท้าในการขับขี่ เช่น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ออกกฎหมายห้ามใส่รองเท้าส้นสูงขับรถ ประเทศญี่ปุ่นได้มีข้อระบุไว้ในกฎหมายชัดเจนว่าขณะขับรถห้ามใส่รองเท้าแบบไหน ทั้งนี้ ในประเทศไทยนั้นไม่ได้มีกฎหมายบังคับที่ชัดเจนจึงทำให้คนขับรถหลายคนยังคงมองข้าม หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บ้างเลือกสวมรองเท้าที่ไม่เหมาะสม บ้างถอดรองเท้า แล้วใช้เท้าเปล่าขับรถ จนเกิดเป็นอุบัติเหตุขึ้นมานั่นเอง
เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ผู้ขับขี่อย่างเราๆ ที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พี่กู๊ดจะมาแนะนำเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับเลือกรองเท้าและการขับขี่ให้ทุกคนได้เข้าใจ เพื่อไปปฏิบัติและลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้อีกส่วนหนึ่งกันครับ
รองเท้าที่ใช่สำหรับการขับรถ
ควรเป็นอย่างไร?
รองเท้าเป็นตัวช่วยให้ขับขี่ได้มั่นใจยิ่งขึ้นในตอนที่เราต้องเหยียบเบรก หรือคันเร่ง นอกจากนี้ถนนในเมืองหลายจุดนั้นค่อนข้างขุรขระ หากเกิดเหตุจำเป็นต้องเบรกฉุกเฉิน รองเท้านี้จะเป็นตัวป้องกันให้เท้าไม่บาดเจ็บและยังช่วยให้คุณเบรกทันท่วงที ซึ่งหลักการเลือกรองเท้าขับรถไม่ยุ่งยากครับ แค่
- เลือกรองเท้าขับรถคู่ที่เราสวมใส่แล้วกระชับเท้า สามารถเหยียบแป้นเบรก และคันเร่งเต็มเท้า
- เลือกรองเท้าขับรถน้ำหนักเบา ไม่หนักเกินไป ป้องกันปัญหากับการเคลื่อนไหวของเท้า
วิธีทดสอบว่ารองเท้าที่ใช้อยู่เหมาะสมหรือไม่
คนขับควรสังเกตว่าสามารถเหยียบเบรก และคันเร่งได้อย่างคล่องตัวหรือไม่
หากลองสวมแล้วรู้สึกว่ารองเท้าไม่กระชับ จนทำให้เหยียบแป้นเบรกหรือคันเร่งไม่ถนัด
พี่กู๊ดแนะนำว่าควรเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่
เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการเหยียบคันเร่งและแป้นเบรกพลาด
เลือกรองเท้าผิด
อันตรายถึงตาย
รองเท้าที่ใช่อาจหาได้ง่าย
แต่บางครั้ง เราก็อาจจะเคยชินที่หยิบรองเท้าที่สวมบ่อยๆ ในชีวิตประจำวันมาใช้ขับรถ
แต่รู้หรือไม่ว่ารองเท้าพวกนี้ เพิ่มโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างมาก
ลองมาเช็กกันดูครับว่ารองเท้าของคุณที่ใช้ขับรถอยู่ทุกๆ
วันนั้นเข้าข่ายความเสี่ยงหรือไม่
1. รองเท้าส้นสูง
หลายครั้งที่ข่าวอุบัติเหตุเกิดมาจากการที่สาวๆ
ใช้รองเท้าส้นสูงในการขับรถ สาเหตุสำคัญมักเกิดจากส้นของรองเท้า
เข้าไปติดกับเบรกและคันเร่ง โดยที่เราไม่รู้ตัว พอถึงเวลาที่ต้องใช้งานเบรกขึ้นมาจริงๆ
ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะ รองเท้าส้นสูงนั้นติดคาเอาไว้จนไม่สามารถเหยียบเบรกได้
อันตรายมากเลยนะครับ พี่กู๊ดอยากเตือนสาวๆ
ทุกคนว่าขึ้นรถแล้วอย่าลืมเปลี่ยนรองเท้าคู่โปรดมาเป็นรองเท้าที่เหมาะสมจะดีกว่า
2. รองเท้าคู่ใหญ่ๆ
เน้นใส่สบาย
หลายคนชอบใส่รองเท้าโอเวอร์ไซส์
เนื่องด้วยความสบายในการสวมใส่
แต่การที่มันหลวมเกินไปมันอาจทำให้คุณเหยียบเบรกหรือคันเร่งผิดพลาดได้นะ
เพราะด้วยความที่พื้นรองเท้ามันใหญ่เกินไป ดังนั้นเลือกรองเท้าที่พอดีๆ
กับเท้าของคุณนั่นเหมาะสมกว่า
3. รองเท้าแตะ (ไร้ดอก)
รองเท้าแตะไม่ใช่ไม่ดีนะครับ
เพราะบางครั้งพี่กู๊ดก็ใช้ในการขับขี่เหมือนกัน แต่..ขอดอกจันตัวใหญ่ๆ
ไว้เลยว่ารองเท้าแตะที่ไม่มีดอกยางนั้นอันตรายมากๆ
ยิ่งในกรณีที่เราเดินย่ำน้ำก่อนจะมาขับรถ ดอกยางของรองเท้าที่หายไปบวกกับน้ำเปียกแฉะนั้น
มันส่งผลให้ลื่นแน่นอน แล้วถ้ามันลื่นตอนที่เราเหยียบเบรคหรือคันเร่งนั้น
อันตรายสุดๆ ไปเลยนะครับ
สำหรับรองเท้าทั่วไปช่วงฤดูฝน
ควรจะเตรียมผ้าหรือกระดาษไว้เช็ดพื้นรองเท้าให้แห้ง
เพื่อลดโอกาสรองเท้าลื่นในตอนที่เหยียบแป้นเบรกได้
4. รองเท้าส้นตึก
ช่วงยุคปี 90
รองเท้าส้นตึกเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากและส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน
แต่อันตรายไม่แพ้รองเท้าส้นสูงเลยครับ เพราะส้นที่โตและความสูงมากเกินไป
จึงเกิดการพลิก กลายเป็นว่ารองเท้านั้นขัดกับแป้นคันเร่ง คือไปเหยียบแล้วชักเท้าไม่ออกนั่นเอง
ผลลัพธ์จึงไม่แตกต่างกับการใช้รองเท้าส้นสูงเลยทีเดียว
ขับรถแบบไม่ใส่รองเท้า
ทำได้แต่ต้องระวัง
ที่จริงแล้วไม่ได้มีกฎตายตัวแน่นอนว่าจะต้องใส่รองเท้าหรือถอดรองเท้าในการขับรถ แต่ถ้าให้พี่กู๊ดแนะนำว่าใส่รองเท้าในการขับขี่จะปลอดภัยกว่า เพราะ อุบัติเหตุในหลายๆ ครั้งมักเกิดจากการถอดรองเท้าไว้ในบริเวณที่พักเท้า แต่การขับรถย่อมมีการเคลื่อนไหว รองเท้าอาจไหลลงมาหรือขยับเข้ามาทับหรือซ้อนบริเวณคันเร่ง หรือเบรกรถยนต์ เมื่อถึงตอนใช้งานก็ไม่สามารถใช้งานได้ หรือกรณีที่ฝ่าเท้าคุณเล็กก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่เหยียบช่องว่างระหว่างเบรกและคันเร่งได้ ทำให้เบรกไม่ทันในที่สุด
นอกจากนี้บริเวณส่วนที่เท้าควบคุมบังคับและที่พักเท้าไม่ควรมีมีวัสดุใดๆ อยู่ใกล้ๆ เพราะ ของเหล่านั้นมักมีโอกาสที่ไปสอดหรือขัดกับแป้นเบรกหรือแป้นอื่นๆ ทำให้เหยียบแล้วไม่สุด ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่รองเท้านะครับ ทั้งขวดน้ำ หรือแม้แต่กระทั่งลิปสติกก็มีผลเช่นกัน ดังนั้น เราควรจัดเก็บสิ่งของดังกล่าวไว้ฝั่งผู้โดยสาร หรือกระโปรงท้ายรถจะปลอดภัยที่สุด
นอกเหนือจากการสวมรองเท้าขับขี่อย่างระมัดระวังแล้ว การมีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจติดรถเอาไว้ เป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้นะครับ ทั้งนี้ การมีประกันรถยนต์ไม่ได้ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ แต่เป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณมั่นใจและคลายกังวลหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เพราะประกันรถยนต์จะคอยช่วยในส่วนของค่าใช้จ่ายความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ แต่ละบริษัทก็มีข้อยกเว้นหรือส่วนการคุ้มครองที่แตกต่างกันไป พี่กู๊ดแนะนำว่าควรจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกับทางบริษัทที่ทำประกันอยู่จะดีกว่าครับ
ดังนั้นแล้ว…ขับรถครั้งหน้าสวมรองเท้า หรือ เก็บรองเท้าให้ดีกันดีกว่านะครับ พี่กู๊ดเป็นห่วง 😊
