รีวิวฟาร์มแกะ Swiss Sheep Farm หัวหิน

ไม่รู้ว่าจะดีใจดีไหมที่มีวันหยุดยาว (วันสงกรานต์ วันแรงงาน วันวิสาขบูชา) ในช่วงนี้ อยากจะออกไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เห็นกระแสความความรุนแรงของคลื่นความร้อนแล้วก็ท้อ แต่จะนอนอยู่บ้านหลายๆ วันเข้าก็เบื่อ สุดท้ายอดไม่ได้เลยออกไปผจญรถติด สายน้ำ ความร้อน และผู้คนกับเขาเสียหน่อย
สงกรานต์ที่ผ่านมาผมคิดอยู่นานว่าจะไปทิศไหนดี ตะวันออก ตะวันตก หรือทิศใต้ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นชะอำหัวหินแหล่งท่องเที่ยวสุดคลาสสิคของคนกรุง คิดอะไรไม่ออกก็ชะอำหัวหินไว้ก่อน สุดท้ายเดินทางไปถึงแล้วก็ไม่ได้แตะผืนทรายแม้แต่นิดเดียว เห็นรถที่ติดกันยาวเป็นทิวแถวแล้วก็ถอยดีกว่า แต่ละแวกนั้นเขามีสถานที่ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลายที่ ก็เลยไม่เสียเที่ยวเสียทีเดียว
ว่าแล้วก็ลองแวะ (เป็นเด็ก) เลี้ยงแกะ ดู ปกติไม่ค่อยอินเทรนด์เรื่องเลี้ยงแกะกับใครสักเท่าไร แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะไปตลาดน้ำก็เบื่อแล้ว เพลินวานก็ไปหลายครั้งแล้ว แกะก็แกะลองไปเลี้ยงดูสักหน่อยที่ Swiss Sheep Farm หัวหิน
Swiss Sheep Farm หัวหิน
ถ้าขับรถมาจากกรุงเทพฯ วิ่งถนนเพชรเกษมขาออกมุ่งหน้าลงใต้ ผ่านเมืองเพชรบุรี ก่อนถึงแยกชะอำ ตรงหลักกิโลเมตรที่ 201 จะเห็น Swiss Sheep Farm อยู่ริมถนนซ้ายมือเลย สังเกตุง่ายๆ คือ เมื่อขับผ่าน ซานโตรินี่พาร์ค ซึ่งอยู่ฝั่งขวามือให้ขับชิดซ้ายมาอีกหน่อยก็ถึงแล้ว
Swiss Sheep Farm ค่าเข้าเท่าไหร่
วันนั้นถือว่าคนเยอะมากทีเดียว แต่ที่จอดรถก็ถือว่ากว้างขวาง หลังจากซื้อบัตร ผู้ใหญ่คนละ 50 บาท เด็กคนละ 30 บาท แต่หากสูงไม่ถึง 120 เซนติเมตรก็ไม่ต้องเสีย เมื่อเข้าไปในพื้นที่ของฟาร์มแล้วก็ไม่รู้สึกอึดอัดหรือเบียดเสียด เพราะสถานที่กว้างขวางพอสมควร ถ้าเป็นวันหยุดธรรมดาๆ ไม่ใช่เทศกาลคงเดินเล่นได้ชิวกว่านี้อีก
ที่นี่เขาสร้างขึ้นมาในคอนเซ็ปต์ของบรรยากาศฟาร์มแบบสวิสในสไตล์ยูโรคันทรี ถ้าใครชอบถ่ายรูปถ้าได้ไปที่นี่ได้สนุกและถ่ายภาพอย่างเต็มอิ่มแน่นอน ตั้งแต่หน้าประตูทางเข้ารายละเอียดทุกอย่างถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม เดินผ่านตรงไหนก็ถ่ายรูปได้ทุกมุมจริงๆ ลักษณะการจัดสถานที่เป็นแบบวงกลม จากทางเข้าเดินวนขวาไปตามทางจนสุดปลายทางอีกด้านก็จะเป็นทางออก แต่ระหว่างทางจะมีกิจกรรมและไฮไลต์ให้เราได้ชื่นชม สัมผัส และสนุกไปตลอด
เริ่มตั้งแต่กิจกรรมเด่นของที่นี่เลยก็คือการเลี้ยงแกะ บัตรผ่านประตูที่เราซื้อมานั้นหางบัตรนำไปแลกหญ้าได้ 1 กำ (เล็กๆ กำนิดหนึ่ง) ถ้าซื้อเพิ่มก็กำละ 20 บาท นอกจากนั้นก็มีแครอท และนมเป็นขวดๆ ด้วย แต่นมขวดละ 50 บาท ตรงส่วนนี้ใครที่มาที่นี่ก็ต้องแวะกันทั้งนั้น ก็จะมาเลี้ยงแกะนี่น่า อยู่ติดกันกับพื้นที่เลี้ยงแกะก็มีสนามยิงธนูให้ทดลองความแม่นด้วย
ถ้าใครขี้เกียจเดิน หรืออยากสำรวจพื้นที่แบบชิวๆ ก็สามารถนั่งรถม้าหรือจะขี่ม้าก็ได้ เดินไปตามทางต่อจากพื้นที่เลี้ยงแกะ บริเวณนั้นก็จะมีการจัดสวนตกแต่งสถานที่ไว้หลายๆ ลักษณะ มีทั้งกรอบรูปห้อยอยู่ใต้ต้นไม้ รูปปั้นรูปหัวใจ มีลำธารเล็กๆ มีรูปปั้นแกะไว้ให้ผู้เข้าชมได้ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
เดินต่อไปอีกก็จะพบกับพื้นที่ให้เข้าชม อัลปาก้า (Alpaca) ด้วย แต่เสียดายวันนั้นไม่ทันสังเกตุ ลืมนึกไปว่าอัลปาก้าเป็นสัตว์พันธ์ุใหม่ที่เขากำลังนิยมกัน อากาศร้อนก็เลยรีบเดินไปหน่อย ผ่านซุ้มอัลปาก้้าไปก็จะเป็นโซนเครื่องเล่น เป็นบรรยากาศแบบสวนสนุก มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ และการเล่นยิ่งเป้า ปาโป่ง ฯลฯ
สุดท้ายตรงทางออกเป็นพื้นที่จำหน่ายขอทีระลึกเกี่ยวกับน้องแกะ มีทั้งตุ๊กตุ่นตุ๊กตา มีทั้งสบู่ ขนม ของขวัญของฝาก จิปาถะ โดยรวมเป็นสถานที่พักผ่อนที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะไปกับครอบครัว ไปกับคนรัก หรือไปกับเพื่อนก็ได้ทั้งนั้น
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คราคา ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ชั้น 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันรถยนต์ 3+ คลิก ประกันรถยนต์ออนไลน์ DirectAsia
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด