ผิดบ่อยๆ แต่ห้ามชิน!! 3 สิ่งที่คนขับรถชอบทำผิด

3 สิ่งที่คนขับรถชอบทำผิดเป็นประจำ
เชื่อว่าหลายคนที่มีประสบการณการขับรถมาหลายปี ต้องเคยมีโดนใบสั่งกันมาบ้าง อาจจะด้วยสาเหตุที่ไม่ตั้งใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีหลายเรื่องบนท้องถนน ที่คุณอาจจะทำผิดกฎหมายด้วยความเคยชิน เพราะตำรวจอาจจะไม่ได้โบกเรียกเพื่อแจ้งความผิดแล้วให้ใบสั่ง จนกลายเป็นว่ากลายเป็นนิสัยการขับขี่ที่เคยชินจนคิดว่ามันถูก ลองมาดูกันดีกว่าว่า พฤติกรรมการขับขี่และผู้ร่วมเดินทางแบบนี้ ได้ทำกับเขาบ้างหรือเปล่า !!!
ช้าชิดขวา
เป็นเรื่องที่มีความเข้าใจถูกผิดหลากหลายมากๆ บ้างทีก็ว่า ขับในเมืองไม่นับ นับเฉพาะขับถนนหลวง บ้างก็ว่าวิ่งสูงสุดตามกฎหมายกำหนดแล้ว วิ่งได้ แต่ถ้าไปดู พ.ร.บ.จราจรทางบก จะระบุไว้เลยว่า ถ้าขับตามปกติในถนนที่วิ่งไปทางเดียวกัน 2 เลนขึ้นไป ต้องขับรถในเลนซ้ายสุด หรือเลนที่ติดช่องทางเดินรถประจำทางมากที่สุด ถ้ารถคันที่ตามมาขับด้วยความเร็วที่เร็วกว่า เราจะต้องหลบในช่องซ้ายสุด เว้นในกรณีที่ว่า
- ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร
- ทางเดินรถนั้น เจ้าพนักงานจราจรกำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว
- จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก
- เมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
งานนี้ถ้าผิดเตรียมจ่ายค่าปรับตั้งแต่ 400 บาทถึง 1,000 บาทเลยล่ะ
ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร
เครื่องหมายจราจรไม่ได้เป็นแค่เพียงป้ายที่ติดตามทางเท่านั้น แต่รวมถึงบนพื้นถนนด้วยเช่นกัน อย่างเส้นทะแยง เส้นทึบ เส้นประ เรามักจะเห็นเหตุการณ์ฝ่าฝืนกฎจราจรเหล่านี้กันได้บ่อยๆ เช่น
การขับแซงในเส้นทึบ ที่มักพบได้ตามคอสะพาน จุดทางร่วม หรือจุดทางแยกทั้งหลายด้วยการมาแทรกรถคันที่ต่อแถว เพื่อขึ้นสะพานหรือเลี้ยวรถ นอกจากจะผิดกฎหมายจราจรตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก แล้ว ที่สำคัญยังเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในเรื่องของมารยาทการขับไม่ต่างจากการแซงคิวซื้อของเลย
การขับรถทับเส้นทะแยงบริเวณหน้าตึกอาคาร ซึ่งสัญลักษณ์นี้หมายถึง ห้ามจอดรถทับเส้นนี้โดยเด็ดขาด เพื่อให้รถที่สามารถเข้าอาคารได้เลยไม่ต้องหยุดรอ แต่สังเกตได้เลยตามหน้าห้างสรรพสินค้ายังมีหลายคนที่ทำผิดกันอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ รวมถึงการจอดรถกีดขวางทางเข้าบ้านผู้อื่นด้วยเช่นกัน
การขับรถเกินความเร็วที่กำหนด การขับขี่ที่ปลอดภัยควรขับขี่อยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายได้กำหนดไว้ชัดเจนตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่กำหนดไว้ว่า สำหรับรถยนต์ เขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาลให้ขับได้ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้านอกเหนือจากนี้ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทั้งสามกรณีถือว่าผิดกฎหมายและมีการระบุโทษในข้อหาฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรอัตราโทษปรับไม่เกิน 500 ถึง 1,000 บาท
ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
เป็นเรื่องที่หลายคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่าขณะขับรถอยู่ ห้ามใช้มือถือโทรศัพท์โดยเด็ดขาด ซึ่งตามกฎหมายแล้วนั้น หากหยิบโทรศัพท์มาใช้ขณะขับรถมีความผิดทุกกรณี ไม่เว้นแม้แต่ตอนรถติดไฟแดง สิ่งที่คุณจะสามารถทำได้ขณะขับรถก็คือใช้ Small Talk หรือ อุปกรณ์เสริมที่ทำให้คุณไม่ต้องจับโทรศัพท์ เพื่อรับสาย แต่ห้ามคุยโทรศัพท์แบบหนีบไว้กับคอหรือให้ผู้อื่นถือให้
ในส่วนของการแชทในโปรแกรมสนทนาบนสมาร์ทโฟนยิ่งไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นการรบกวนสมาธิขณะขับรถเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องละสายตาจากท้องถนนและยังต้องละมือจากควบคุมพวงมาลัยรถไปจิ้มหน้าจอไปด้วย ที่สำคัญการแชทเนี่ยล่ะเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้งแล้ว ถ้าคุณใช้โทรศํพท์ระว่างขับขี่แล้วล่ะก็ ถือว่ามีระวางโทษปรับตั้งแต่ 400 บาทถึง 1,000 บาท
กฎหมายส่วนใหญ่ที่บังคับใช้นั้น ได้คำนึงถึงความปลอดภัยแก่ทั้งรถ ผู้ขับขี่ และผู้ร่วมท้องถนนทั้งนั้น หากคุณเริ่มต้นเคารพและทำตามกฎจราจร ความเป็นระเบียบเรียบร้อยก็จะเกิดขึ้นบนท้องถนนได้ไม่ยาก ดังนั้น..มาตั้งใจขับรถกันให้ถูกต้องตามกฎจราจร แล้วเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมการขับขี่ที่ดีกันดีกว่า เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนสำหรับทุกๆ คน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องประกันรถยนต์พร้อมเช็คราคา ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และประกันชั้น3 คลิกเว็บไซต์ https://www.directasia.co.th หรือสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด