เลือกรถยนต์ ซื้อรถใหม่ป้ายแดงให้ถูกใจ ฉบับผู้ขับขี่ยุคดิจิทัล

เลือกรถยนต์ ซื้อรถใหม่ป้ายแดง เลือกอย่างไรให้คุ้ม

1. เลือกรถยนต์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่
2. เลือกรถยนต์จากเทคโนโลยี หรือฟังก์ชันรถยนต์
3. เลือกรถยนต์จากสมรรถนะเครื่องยนต์
4. เลือกรถยนต์พร้อมเลือกบริษัทประกันที่เชี่ยวชาญด้านเคลม

วางแผนเลือกรถยนต์ปี 2022 พร้อมหาฤกษ์ออกรถ ไว้เรียบร้อย แต่ยังไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดี มีแคนดิเดทรุ่นรถที่เข้าตาเต็มไปหมดทั้ง New CIVIC, CR-V และ HR-V จากค่าย Honda หรือ Yaris จากพี่ใหญ่ค่าย Toyota นั่นก็อยากได้ นี่ก็สวยถูกใจจนนำไปสู่การลังเล และตัดสินใจไม่ได้สักที แต่เดี๋ยวก่อน! การเลือกรถยนต์ที่คุณจะต้องขับขี่ไปอีกนานเกือบ 10 ปี หรืออาจมากกว่านั้น ไม่ควรมองแค่ความสวยงาม หรือความถูกใจเป็นหลัก แต่ยังควรคำนึงในเรื่องการใช้งานที่เหมาะสมกับตนเองด้วยเช่นกัน DirectAsia จึงมีข้อแนะนำในการเลือกรถยนต์ให้ถูกใจผู้ขับขี่ และตรงต่อความต้องการในการใช้งานในยุคปัจจุบันมากที่สุด รวมถึงแนะนำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 และประกันรถยนต์ 2+ ที่เหมาะกับผู้ขับขี่รถยนต์ในทุกประเภท แถมยังให้ความคุ้มครองครอบคลุม และราคาประหยัดอีกด้วย

นอกจากนี้ การเลือกรถยนต์ยังมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งรวมกันแล้วไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะค่าผ่อนรถ ค่างวดรถ ค่าบำรุงรักษารถ และค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ดังนั้น การเลือกรถยนต์ในราคาที่เหมาะสม ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คุณไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่หนักอึ้งในแต่ละเดือน และทำให้คุณขับขี่รถยนต์คู่ใจได้อย่างมีความสุขไปอีกนาน

1. เลือกรถยนต์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่

สำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบอยู่กับบ้าน ทำงานอยู่บ้านเป็นหลัก หรือนาน ๆ จะได้ขับไปไหนมาไหนใกล้ ๆ ในเมือง ก็อาจเลือกรถยนต์ให้ตรงกับการใช้งานอย่างรถยนต์ระบบไฮบริด ที่ยังรองรับการใช้งานระบบปกติไปด้วย ก็จะช่วยให้ผู้ขับขี่ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการลงทุนที่สูงเช่นกัน ส่วนใครที่มีงบน้อยลงมาหน่อยจะมองเป็นรถยนต์ Eco-car ประเภท A-Segment Car หรือ B-Segment Car เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่เหมาะกับการขับขี่แบบในเมือง ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะสีสันของรถยนต์ ก็นับว่าเป็นการบ่งบอกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ไปในตัว หรือคนมีครอบครัว ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยครั้ง สามารถขนของได้ครั้งละเล็กน้อย จะเลือกเป็นรถ Mid-Size Cars หรือ SUV เป็นรถขนาดกลางที่เหมาะกับครอบครัว สามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสะดวกสบาย ใครเหมาะกับแบบไหนก็ลองหาข้อมูลเปรียบเทียบไว้ก่อน ถือเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งเลยทีเดียว

2. เลือกรถยนต์จากเทคโนโลยี หรือฟังก์ชันรถยนต์

ทุกวันนี้เทคโนโลยีรถยนต์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นการให้ความสำคัญเรื่องฟังก์ชันการใช้งานรถยนต์ควรจะมาเป็นอันดับต้น ๆ เพราะเจ้าเทคโนโลยีนี่แหละจะมาช่วยให้การขับขี่หรือการโดยสารบนรถยนต์สะดวกสบาย และปลอดภัยขึ้นเป็นกองเลย แถมการเพิ่มขึ้นของฟังก์ชันบางอย่างทำให้ราคารถยนต์อัปขึ้นอีกด้วย ฉะนั้นอย่าลืมเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองในระยะยาวด้วยนะ

ยกตัวอย่างเทคโนโลยีในรถยนต์ให้เห็นกันชัด ๆ เลย อย่างระบบเชื่อมต่อ Bluetooth ที่รถยนต์แทบจะทุกคันมีกันหมดแล้ว ซึ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ สามารถรับโทรศัพท์มือถือหรือฟังเพลงในขณะขับขี่ได้แบบไม่ต้องละสายตาจากถนนเลยก็ว่าได้ หรือจะเป็นเทคโนโลยี Semi-Auto Pilot ระบบช่วยขับขี่ในความเร็วต่ำ ควบคุมความเร็ว และทิศทาง โดยอาศัยระบบเรด้าร์ตรวจจับรถยนต์รอบคัน ซึ่งใครรักในความทันสมัย หรือความสะดวกสบายแบบไหนก็เลือกได้เลย แล้วคุณจะหลงรักในการขับขี่เพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

3. เลือกรถยนต์จากสมรรถนะเครื่องยนต์

หากพูดถึงเรื่องการใช้งานรถยนต์ที่ได้ศักยภาพ ก็ควรมองในเรื่องของแรงม้า แรงบิด ที่พอเพียงกับการขับขี่ของคุณด้วย หรือการเลือกรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันก็สำคัญไม่แพ้กัน ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณเน้นการใช้งานรถยนต์ที่บรรทุกของ ส่งสินค้าต่าง ๆ หรือต้องใช้เส้นทางที่มีเป็นหลุมเป็นบ่อ ลาดชัน ต้องขับลุยน้ำลุยป่า คงหนีไม่พ้นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง และทนทานอย่างรถกระบะหรือรถปิ๊กอัพแน่นอน ซึ่งรถกระบะในปัจจุบันบอกเลยว่ามีดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวไม่ธรรมดา ดูทันสมัย ในราคาที่ไม่ได้แพงเมื่อเทียบกับการขับขี่ที่ดูจะโหดยิ่งกว่า ซึ่งคุ้มค่ามากกว่าการเลือกรถเก๋ง ที่อาจจะมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูงกว่า และต้องจ่ายค่าซ่อมรถที่ตามมาอีกมากมายจากการใช้งานรถยนต์ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานนั่นเอง

4. เลือกรถยนต์พร้อมเลือกบริษัทประกันที่เชี่ยวชาญด้านเคลม

เมื่อได้รถยนต์ที่ตรงใจคุณมากที่สุดแล้ว การมองหาบริษัทประกันภัยรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ขับขี่ไม่ควรละเลย ในกรณีที่คุณเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการขอความช่วยเหลือ ประกันภัยรถยนต์นี่แหละที่จะเป็นตัวช่วยชั้นเลิศในการคุ้มครองความเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล และการชดเชยอีกมหาศาล และที่สำคัญบริษัทประกันภัยรถยนต์ยังมี อู่ซ่อมหรือศูนย์บริการในเครือที่ถูกควบคุมคุณภาพงานซ่อม การรับประกันอะไหล่ และสามารถดีลราคา หรือค่าใช้จ่ายในการส่งซ่อมต่อครั้งได้ราคาที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับการนำรถส่งซ่อมด้วยตัวเอง แบบไหนคุ้มกว่าคงไม่ต้องเดาเลยถูกไหม

DirectAsia แนะนำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี หรือประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด 2 เท่า* ของทุนประกันภัย กรณีรถถูกโจรกรรม หรือไฟไหม้ รับค่าชดเชยจาก DirectAsia ไปเลย

พิเศษ!  ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์กับ DirectAsia ภายใน ธ.ค. 2564 นี้ รับโปรโมชั่นประกันรถยนต์สุดคุ้มแบบ 2 ต่อ

• ต่อที่ 1 รับบัตรน้ำมันสูงสุด 2,000 บาท*
• ต่อที่ 2 รับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์  โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+ , ประกันชั้น 2 , และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th/

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด